ในบทความนี้จะชวนทุกคนมาท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หรือ”ช่องไฟนรก” จังหวัดกาญจนบุรี ที่ภายในนั้นมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์โลกที่หดหู่ใจ เป็นอนุสรณ์สถานที่ให้มากกว่าความรู้ อีกทั้งยังตั้งอยู่รอบธรรมชาติสวยงาม ทั้งสะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานีรถไฟถ้ำกระแซ และสถานที่ไฮไลต์อื่น ๆ ทำไมชาวต่างเรียกช่องเขาขาดว่า “ช่องไฟนรก” ลองมาเที่ยวดู เดี๋ยวรู้แน่นอน

ความเป็นมาของ “ช่องไฟนรก”

story-of-hellfire-pass-konyu-cutting-1

พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หรือเรียกอีกอย่างว่า “ช่องไฟนรก”นั้น เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินรถไฟสายไทย-พม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นทางรถไฟสายมรณะ ความเป็นมาเริ่มขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นต้องการเดินทางไปยังประเทศพม่า แต่ทว่าต้องผ่านทางประเทศไทยยังช่องเขาขาด ซึ่งเส้นทางนี้เป็นทางผ่านภูเขาลูกใหญ่ มีเนินหินและหุบเหวอันตรายขวางทางอยู่ จึงได้ใช้เชลยศึกให้ทำการขุดเจาะถ้ำเพื่อสร้างเส้นทางรถไฟ 

story-of-hellfire-pass-konyu-cutting-2

สาเหตุที่สถานที่แห่งนี้ถูกจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์โลกก็เพราะว่า การสร้างเส้นทางรถไฟผ่านช่องเขาขาด ใช้แรงงานมนุษย์ในการสร้างทั้งหมด ซึ่งเป็นงานที่หนักมาก เหล่าเชลยศึกต้องทำงานท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดเพื่อปืนลงไปสกัดเขาที่มีความสูงถึง 11 เมตร แทบจะไม่มีอากาศให้หายใจ ซ้ำต้องทำงานในภาวะที่ขาดแคลนน้ำและอาหาร จึงทำให้ต่อมามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เส้นทางรถไฟช่องเขาขาด จึงถูกขนานนามว่าเป็น “ช่องไฟนรก” นั่นเอง

ไฮไลต์เด่นของช่องเขาขาดที่ไม่ควรพลาด

พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด Hellfire Pass Memorial Museum  

story-of-hellfire-pass-konyu-cutting-3

พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด Hellfire Pass Memorial Museum ที่แรกเป็นอนุสรณ์สถานช่องเขาขาด ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้เหล่าเชลยศึกสงครามที่ทางญี่ปุ่นได้ยกทัพเข้ามาในประเทศไทย เพื่อทำการสร้างเส้นทางรถไฟไปประเทศพม่าโดยใช้แรงงานมนุษย์ทั้งหมด ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการบอกเล่าเรื่องราวความทุกข์ยากลำบากของเหล่าเชลยศึก อีกทั้งยังมีการฉายวีดิทัศน์ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ในการสร้างทางรถไฟอีกด้วย บอกเลยว่าใครก็ตามที่ได้มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะต้องรู้สึกหดหู่ใจและอินไปกับบรรยากาศโดยรอบแน่นอน

รางรถไฟเก่า

เมื่อมาเที่ยวช่องเขาขาดต้องมาเดินชมบรรยากาศจริงรอบรางรถไฟเก่า ที่ยังคงเหลือเรื่องราวในอดีตให้เห็นอยู่เล็กน้อย ใครอยากสัมผัสบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงภาพเชลยศึก รับรู้ถึงความทุกข์ยากลำบาก สามารถเดินเท้าเพื่อเข้าไปชมสถานที่จริงได้ด้วยตัวเอง แนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและลงไปในช่องเขาที่มีขนาดความกว้างแค่ 17 เมตร ภายในจะแสดงให้เห็นร่องรอยของทางรถไฟ และร่องรอยของการระเบิดหินเพื่อสร้างช่องรถไฟด้วย เมื่อเดินเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ ความรู้สึกดิ่งและหดหู่ใจก็จะมากขึ้นเท่านั้น 

เส้นทางรถไฟช่องเขาขาด

เส้นทางรถไฟช่องเขาขาด ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของที่นี่เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ สามารถมาชมวิวต้นไม้ สลับกับภูเขาใหญ่ได้ที่นี่ จุดพักชมวิวสวยงามช่องเขาขาด ซึ่งว่ากันว่าจุดนี้เป็นเหมือนกำลังแรงใจของเหล่าเชลยหลาย ๆ คน มองวิวสวยเพื่อสร้างความหวังให้มีชีวิตอยู่ต่อไปแม้จะเจอแต่ความโหดร้ายก็ตาม

สรุปบทความ

story-of-hellfire-pass-konyu-cutting-6

เรียกได้ว่าช่องเขาขาดหรือ “ช่องไฟนรก” ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่สร้างความเศร้าสลดใจให้แก่ผู้มาเยือนเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในการมีชีวิตเพื่อต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาอีกด้วย เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีความน่าสนใจและได้อะไรกลับไปไม่น้อยอย่างแน่นอน

และถ้าหากได้มาลองมาเที่ยวกันแล้ว กำลังตามหาที่พัก ขอแนะนำให้มาพักกันที่ Hintok River Camp ที่พักสไตล์ตั้งแคมป์ท่ามกลางธรรมชาติ วิวป่าสวย บรรยากาศดี แถมยังเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย สามารถเพลิดเพลินกับริมแม่น้ำที่ใสสะอาดได้อย่างเต็มที่